ชื่อ: ซู ซู ทวย
อายุ: 34 ปี
ภูมิลำเนา: ทวาย ประเทศเมียนมา
ปัจจุบันทำงานอยู่ที่เขาหลัก จังหวัดพังงา ประเทศไทย
ซู ซู ทวย เป็นหนึ่งในพี่น้องเจ็ดคนและเติบโตมาในครอบครัวชาวนาที่มีฐานะยากจน เธอเดินทางจากเมียนมามาที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรกเมื่ออายุประมาณ 19 ปี โดยก่อนที่ ซู ซู ทวย จะอพยพมาที่ประเทศไทย เธอทำงานในที่ดินของครอบครัว และรับจ้างทำงานด้านเกษตรกรรมเป็นรายวัน พี่สาวของ ซู ซู ทวย เป็นคนแรกในครอบครัวที่ข้ามพรมแดนมาทำงานที่ประเทศไทย แต่หลังจากอพยพมาแล้ว เธอก็ขาดการติดต่อกับครอบครัวและไม่ได้ส่งเงินกลับบ้าน ความสัมพันธ์ที่มีทั้งความกดดันและความเครียด ทำให้พ่อแม่ของ ซู ซู ทวย หย่าร้างกัน ซู ซู ทวย จึงต้องเป็นผู้รับผิดชอบทุกอย่างหลังจากพ่อจากเธอไป
ความกดดันจากการแบกรับภาระที่ต้องเลี้ยงดูครอบครัว ทำให้ ซู ซู ทวย ตัดสินใจเดินทางมายังประเทศไทย เธอจ่ายเงินให้นายหน้า 10,000 บาท เพื่อลักลอบพาเธอข้ามมายังประเทศไทยทางเรือในตอนกลางคืน พร้อมกับแรงงานข้ามชาติกว่า 20 คนที่เธอไม่รู้จัก
เธอจำได้ว่าถูกพาตัวไปที่เกาะห่างไกลและได้รับคำสั่งให้เดินขึ้นเขาไปอยู่บนวัดที่ตั้งอยู่บนเนินสูงสุด กลุ่มผู้อพยพพักอาศัยอยู่ที่วัดแห่งนี้เป็นเวลาสองวันเพื่อรอฟังข่าวจากผู้ลักลอบขนแรงงาน จนท้ายที่สุดก็ได้รับแจ้งให้เดินลงจากภูเขาและขึ้นเรืออีกลำ ซึ่งพาพวกเขาไปถึงจังหวัดระนองในตอนหัวค่ำ
หลังจากมาถึงประเทศไทยได้เพียง 20 วัน ซู ซู ทวย ถูกจับกุมในระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นที่พักที่เธอพักอยู่ เธอไม่มีเอกสารและถูกนำตัวไปที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อแลกกับอิสรภาพเธอต้องใช้ เงินถึง 15,000 บาท โดย ซู ซู ทวย ใช้เวลาสองวันในการรวบรวมเงินจากคนในครอบครัว และได้รับการปล่อยตัวในที่สุด
ต่อมา ซู ซู ทวย ได้งานทำที่โรงงานปอกเปลือกกุ้งในจังหวัดระนอง โดยได้รับค่าแรงราว 150 บาทต่อวัน เนื่องจากเธอไม่มีเอกสาร หลังจากนั้นสองปี เธอสามารถยื่นขอวีซ่าและใบอนุญาตทำงานในประเทศไทย และทำงานในโรงงานอีกแห่งหนึ่ง พร้อมกับเป็นพนักงานเสิร์ฟ อย่างไรก็ตาม เธอก็ยังคงได้รับค่าจ้างเพียงประมาณ 180 บาทต่อวัน
ซู ซู ทวย แต่งงานในประเทศไทยและมีลูกหนึ่งคน ซึ่งเธอส่งกลับบ้านให้แม่เลี้ยงดู สามีของเธอทำงานบนเรือประมงไทย มีรายได้เพียง 4,000-5,000 บาทต่อเดือน ต่อมา ซู ซู ทวย ได้งานที่โรงงานปลาทูน่า ซึ่งเธอทำอยู่เป็นเวลาเจ็ดปี โดยมีรายได้ประมาณ 200 บาทต่อวันในช่วงแรก และได้เพิ่มขึ้นเป็น 300 บาท แม้ว่าเธอจะลาออกมาแล้ว แต่ก็ได้ยินมาว่าตอนนี้โรงงานจ่ายค่าแรงขั้นต่ำ 345 บาทต่อวัน และยังมีค่าล่วงเวลาให้อีกด้วย
ปัจจุบัน ซู ซู ทวย ทำงานเป็นแม่บ้านให้กับครอบครัวหนึ่ง มีรายได้ประมาณ 12,000 บาทต่อเดือน เธอมีความสุขกับงานนี้ โดยเริ่มงานตั้งแต่ 8 โมงเช้า และเลิกงานประมาณ 4-5 โมงเย็น
ซู ซู ทวย จะไม่แนะนำให้ใครเดินทางมายังประเทศไทยด้วยวิธีแบบเดียวกับเธอ เพราะเธอรู้สึกหวาดกลัวตลอดการเดินทาง เธอแนะนำให้หานายหน้าที่ดี จ่ายแพงขึ้นอีกหน่อย และเดินทางมาอย่างถูกกฎหมาย แม้ตอนนี้ชีวิตจะมีความมั่นคงแล้ว แต่ ซู ซู ทวย ยังหวังที่จะได้กลับบ้านอยู่เสมอ และยังกล่าวอีกว่า หากเมียนมาปลอดภัยและมีโอกาสในการทำงาน เธอจะกลับบ้านทันที
ภาพ: ลุค ดักเกิลบี