ดอ โช

พังงา

กลับ

ชื่อ: ดอ โช
อายุ: 53 ปี
ภูมิลำเนา: เมืองทวาย ประเทศเมียนมา
ปัจจุบันทำงานอยู่ที่ ตำบลลำแก่น จังหวัดพังงา ประเทศไทย

เป็นเวลา 14 ปีแล้วที่ ดอ โช ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารทะเลที่ตำบลลำแก่น จังหวัดพังงา ก่อนหน้านี้เธอเป็นชาวนาในเมียนมา แต่ต้องเผชิญกับความท้าทายมากมายที่ทำให้เธอไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดต่อได้ ดอ โช เคยเข้าร่วมโครงการของรัฐบาลเมียนมาที่มอบเมล็ดพันธุ์และปุ๋ยให้ครอบครัวยากไร้ โดยมีข้อกำหนดให้เกษตรกรขายข้าวจำนวนร้อยละ 30 ของผลผลิตกลับคืนให้กับรัฐบาลในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด ดอ โช ติดอยู่กับข้อกำหนดนี้นานถึง 20 ปี

สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงเมื่อเธอต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นทุกปี ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่เพาะปลูกของเธอเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ผลผลิตของเธอลดลงตามไปด้วย โดยในช่วง 4 ปีสุดท้ายที่ ดอ โช อาศัยอยู่ในเมียนมา การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้ปัญหาน้ำท่วมทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และเนื่องจากไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ จากรัฐบาล เธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องย้ายถิ่นฐาน

เมื่อตระหนักถึงสภาพความเป็นอยู่ที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ ดอ โช จึงส่งลูกสองคนข้ามชายแดนไปทำงานที่ประเทศไทย โดยต้องใช้เวลา 3 ปี ในการชำระหนี้สินซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการย้ายถิ่นฐานของลูกๆ และเมื่อความเป็นอยู่ในประเทศไทยของลูกๆ ลงตัวแล้ว เธอจึงตัดสินใจเดินทางตามมาเช่นกัน

ดอ โช จ่ายเงินค่านายหน้าจำนวน 5,500 บาท เพื่อเดินทางเข้าประเทศไทย โดยซ่อนตัวอยู่ในห้องเครื่องของเรือไปยังจังหวัดระนองในตอนกลางคืน เมื่อมาถึงเธอได้รับคำสั่งให้สวมผ้าคลุมหน้าแบบมุสลิมเพื่อปกปิดตัวตน โดยเปิดให้เห็นเฉพาะดวงตา จากนั้นเธอเดินทางต่อโดยรถประจำทางเพื่อไปยังจุดหมายปลายทาง

ดอ โช ว่างงานอยู่นาน 10 เดือน ก่อนจะได้ทำงานที่โรงงานแปรรูปอาหารทะเล เธอมีหน้าที่แล่เนื้อปลาออกจากก้าง ในขณะนั้นเธอได้รับค่าแรงเพียง 2,500 บาทต่อเดือน เนื่องจาก ดอ โช ไม่มีเอกสารที่ถูกต้อง โดยเริ่มงานตั้งแต่เวลา 08.00 น. จนกว่าจะเสร็จ ซึ่งอาจจะเป็น 14.00 น. ไปจนถึง 20.00 น. โดยไม่มีค่าล่วงเวลา และมีวันหยุดเพียง 1 วันต่อสัปดาห์

ดอ โช ใช้ชีวิตด้วยรายได้ 2,500 บาทต่อเดือนอยู่นาน 5 ปี กระทั่งเธอได้ร่วมมือกับแรงงานคนอื่นๆ ในการเรียกร้องค่าจ้างที่สูงขึ้น ซึ่งความพยายามของพวกเขาก็ประสบความสำเร็จ โดยเจ้าของโรงงานได้เพิ่มเงินเดือนให้พวกเขาเป็น 5,000 บาท หลังจากทำงานมานาน 13 ปี ตอนนี้ ดอ โช ได้รับเงินเดือน 6,100 บาท



ดอ โช เล่าว่าแม้จะต้องเผชิญกับสภาพการทำงานที่ยากลำบาก แต่ชีวิตในประเทศไทยก็ยังดีกว่าในเมียนมาเพราะเธอได้อยู่กับครอบครัวและมีประกันสุขภาพผ่านใบอนุญาตทำงาน

อย่างไรก็ตาม เธอต้องเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญ นั่นคือค่าใช้จ่ายที่สูงในการต่ออายุเอกสารในแต่ละปีเพื่อรักษาสถานภาพแรงงานข้ามชาติตามกฎหมาย ซึ่งต้องดำเนินการผ่านนายหน้าที่คิดค่าใช้จ่ายสูงกว่าราคาที่ทางการกำหนดไว้กว่าเท่าตัว จากค่าใช้จ่ายตามกฎหมายประมาณ 7,000 บาท แต่เธอต้องเสียค่าใช้จ่าย 20,000 บาท ให้กับนายหน้า ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนนี้เทียบเท่ากับเงินเดือนหลายเดือนของดอ โช


ภาพ: ลุค ดักเกิลบี

ยาน เหนี่ยง ทุน

NEXT STORY

ยาน เหนี่ยง ทุน

yan-naing-tun