“เงินที่หาได้วันนี้..ก็พอกินแค่วันนี้เท่านั้น”

โกอูยังคงจำได้แม่นยำถึงความยากลำบากในวัยเด็ก ครอบครัวเขารู้ดีว่าพวกเขาต้องออกไปทำอะไรซักอย่างเพื่อหลุดพ้นจากความยากลำบากนี้ และนั่นก็คือการที่โกอูต้องจากประเทศเมียนมาบ้านเกิดของเขา 

“วัยเด็กของผมในประเทศเมียนมานั้นยากลำบากมาก ผมอาศัยอยู่ใต้หลังคามุงจากที่ร้อนอบอ้าวในช่วงหน้าร้อนและเปียกแฉะในช่วงหน้าฝนจนทำให้บางคืนผมนอนไม่ได้เลย พ่อของผมหาเงินได้เพียงแค่ให้มีข้าวสารกรอกหม้อ เงินที่หาได้วันนี้ก็พอกินแค่วันนี้เท่านั้น ยิ่งถ้าเป็นหน้าฝนพวกเราจะยิ่งยากลำบากมาก เพราะไม่มีงานให้ทำ”

ย่าของโกอูพาเขาข้ามพรมแดนเมียนมาที่ เปียอู้ลวย (Pyin U Lwin) มายังประเทศไทยเมื่อเขาอายุยังไม่ถึง 9 ขวบ โกอู ได้เข้าเรียนในประเทศไทย เขาตั้งใจเรียนอย่างหนักจนมีผลการเรียนที่ดีมาก และได้รับทุนการศึกษาทุกปี 

“คนส่วนใหญ่คิดว่าเงินสำคัญที่สุด แต่สำหรับผมสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการศึกษา ทุกวันนี้มีแหล่งความรู้บนโลกออนไลน์มากมาย เราไม่จำเป็นต้องเรียนในโรงเรียนเพียงอย่างเดียวอีกต่อไปแล้ว” โกอู กล่าว

ปัจจุบันโกอูอายุ 24 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 3 คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช นอกจากนี้เขายังทำงานอีกหลายอย่างพร้อมกันไปด้วย เช่น ขายเครื่องสำอาง สอนหนังสือ และเป็นล่ามแปลภาษาไทยให้กับเอ็นจีโอหลายแห่ง เป็นต้น 

แม้จะได้รับโอกาสทางการศึกษาที่สูง ถึงกระนั้น โกอูก็ไม่เคยลืมว่าเขามายืนอยู่ ณ จุดนี้ได้อย่างไร 

โกอูทำงานเพื่อช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติและผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ สำหรับโกอู การได้เป็นล่ามให้กับแรงงานข้ามชาติที่ต้องการลงทะเบียนเป็นงานที่เขาภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้แรงงานเหล่านี้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง 

นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 โกอูได้เข้ามาเป็นอาสาสมัครให้กับ The Freedom Story องค์กรพัฒนาเอกชนที่ได้รับการสนับสนุนจากโครงการต่อต้านการค้ามนุษย์ในประเทศไทย สนับสนุนโดยองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันโกอูยังคงช่วยงาน The Freedom Story  โดยเฉพาะงานด้านคดีความต่างๆ และการจัดกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติในจังหวัดเชียงราย

ไม่ว่าจะจัดอบรมกี่ครั้ง เขาก็ไม่เคยขาด 

และไม่ว่าจะถูกร้องขอให้ช่วยเหลือขนาดไหน เขาก็ไม่เคยปฎิเสธ 

คนส่วนใหญ่ที่โกอูเข้าไปช่วยเหลือเป็นกรณีการเรียกร้องสิทธิประกันสังคมจากนายจ้าง และการแจ้งนายจ้างเก่าให้ทราบก่อนที่จะย้ายไปทำงานที่ใหม่ ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในกลุ่มของแรงงานข้ามชาติที่ต้องการย้ายงาน โกอูสละเวลาของเขาเพื่อที่จะให้ความรู้ที่ถูกต้องกับแรงงานข้ามชาติในประเด็นดังกล่าว

มีกรณีหนึ่งที่โกอูได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือแรงงานหญิงคนหนึ่งที่ทำงานอยู่ในโรงงานผลิตอาหารและถูกนายจ้างบังคับให้จ่ายเงิน 10,000 บาทเพื่อทำหนังสือเดินทางฉบับใหม่ แต่เนื่องจากเธอปฎิเสธจึงถูกไล่ออกจากงาน ต่อมากรณีนี้ได้ถูกส่งต่อให้กับกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และภายหลังแรงงานหญิงดังกล่าวถูกช่วยเหลือให้กลับเข้าไปทำงานที่เดิมได้สำเร็จ

โกอูยังได้มีส่วนร่วมในการผลิตหนังสั้นเพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้กับแรงงานข้ามชาติถึงปัญหาการค้ามนุษย์อีกด้วย

ถึงแม้ว่าในสถานการณ์โควิดทำให้การเดินทางเป็นเรื่องที่ยากลำบาก แต่ก็ไม่ได้ทำให้โกอูหยุดที่จะทำงานเพื่อให้ความรู้ด้านกฎหมายและช่วยเหลือเพื่อนแรงงาน เขาติดต่อกลุ่มเป้าหมายผ่านทางเฟสบุ๊คแทนที่การเดินทางไปพบด้วยตัวเอง ปัจจุบันโกอูมีผู้ติดตามบนเฟสบุ๊คกว่า 15,000 คน และในแต่ละโพสของโกอูมีคนกดไลค์มากถึง 150,000 ครั้ง

“เมื่อไหร่ก็ตามที่มีคนถามผมเกี่ยวกับประกันสังคม หากผมอธิบายคนคนนั้นไป ก็จะมีเพียงคนคนนั้นเท่านั้นที่ได้รับความรู้ แต่หากผมไลฟ์ผ่านเฟสบุ๊คของผม จะมีเพื่อนๆของผมไม่ต่ำกว่า 5,000 คน และคนติดตามกว่า 15,000 คนที่จะได้เรียนรู้ไปด้วยกัน และนอกจากนี้เขายังสามารถเข้ามาเรียนรู้ด้วยตัวเองอีกครั้งเมื่อไหร่ก็ได้” โกอูอธิบาย

ด้วยการศึกษา ความรู้ และประสบการณ์ที่โกอูมี ทำให้เขามีความมั่นใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆที่จะช่วยเหลือเพื่อนแรงงานข้ามชาติต่อไป

ภาพโดย สุเทพ กฤษณาวารินทร์