ซูซู ทเว

ภูเก็ต

กลับ

หญิงสาวอายุ 38 จากย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา

จากเกาะที่ห่างไกลในประเทศเมียนมา ซูซู  และสามีของเธอเฝ้ารอคอยนายหน้าที่พวกเธอจ่ายเงินเป็นค่าเดินทางข้ามชายแดนมายังประเทศไทย ขณะนั้น ซูซู กำลังตั้งครรภ์ และพวกเธอหวังว่าจะหางานที่มั่นคงและสร้างครอบครัวที่มีความสุขที่ประเทศไทย

หลังจากรอคอยนานกว่า 2 สัปดาห์ พวกเธอถูกพาลงเรือมายังเกาะภูเก็ต และขึ้นรถตู้ที่ปรับเอาเบาะนั่งออกทั้งหมด เพื่อให้สามารถขนแรงงานข้ามชาติจำนวนมากอย่างแออัดเบียดเสียด โดยมีจุดหมายปลายทางที่จะพาพวกเธอไปทำงานในภูเก็ต

ถึงแม้ว่า ซูซู และสามีไม่มีเอกสารเดินทางสำหรับออกจากประเทศเมียนมา รวมถึงเอกสารที่จำเป็นเพื่อเข้าประเทศไทยอย่างถูกกฎหมาย แต่รถตู้ที่อัดแน่นไปด้วยแรงงานเหล่านี้กลับพาพวกเธอมาถึงที่หมายได้อย่างง่ายดายโดยอาศัยความมืดในช่วงกลางคืน และมันเป็นการเดินทางที่ยาวนานมากสำหรับพวกเธอ

พวกเธอถูกนำตัวมาที่ไซต์ก่อสร้าง และได้รับคำมั่นสัญญาจากนายจ้างว่าจะได้รับหนังสือเดินทางและใบอนุญาตทำงานในประเทศไทยอย่างถูกต้อง อย่างไรก็ดี สามีของซูซู ถูกหักเงินจำนวน 2,400 บาทจากเงินเดือนทุกเดือนโดยอ้างว่าเป็นค่าเอกสาร ทำให้พวกเธอแทบจะไม่เหลือเงินสำหรับใช้ประจำวัน รวมถึงจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่จำเป็นในขณะที่เธอตั้งครรภ์

หลายเดือนต่อมา พวกเธอยังคงไม่ได้รับเอกสารใดๆ ตามที่นายจ้างบอก เงินติดตัวก็ร่อยหรอลงมาก  เธอรู้ดีว่าตัวเองถูกหลอกและเธอไม่สามารถใช้ชีวิตแบบนี้ได้อีกต่อไป เมื่อ ซูซู เริ่มท้องแก่เธอไม่สามารถทำงานได้ และสามีของเธอก็ไม่สามารถทำงานที่อื่นได้เช่นกันเนื่องจากไม่มีใบอนุญาตทำงานและหนังสือเดินทางที่นายจ้างเคยสัญญาไว้

ท้ายที่สุด ทั้งคู่จึงย้ายไปพักอาศัยกับเพื่อนของ ซูซู ที่บ้านเช่าแห่งหนึ่ง ไม่นานเจ้าของบ้านเช่าทราบว่าเธอและสามีเป็นแรงงานที่ไม่มีเอกสารใดๆ จึงบังคับให้พวกเธอย้ายออกทันทีถ้าไม่เช่นนั้นจะโทรแจ้งตำรวจเพื่อจับพวกเธอทั้งคู่เข้าคุก ด้วยความกลัวพวกเธอจึงรีบย้ายออกจากบ้านเช่าหลังนั้นโดยทันที

เมื่อหมดสิ้นหนทางที่จะเดินต่อไปแล้ว เพื่อนของ ซูซู จึงติดต่อ DISAC (Diocesan Social Action Center) เพื่อขอความช่วยเหลือ DISAC องค์กรพันธมิตรในโครงการต่อต้านการค้ามนุษย์ในประเทศไทย สนับสนุนโดยองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา ที่มีพื้นที่ทำงานอยู่ในจังหวัดภูเก็ต โดยให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายกับแรงงานข้ามชาติ

เนื่องจาก ซูซู และสามีไม่มีเอกสารทางราชการ พวกเธอจึงไม่สามารถที่จะอยู่ในภูเก็ตได้อีกต่อไป ปัจจุบันทั้งคู่ได้เดินทางกลับไปยังประเทศเมียนมาและยังคงมองหาโอกาสในการสร้างชีวิตที่ดีขึ้นด้วยความหวัง


ภาพโดย Luke Duggleby

รพีพรรณ ยมแสง

NEXT STORY

รพีพรรณ ยมแสง

rapeepun-yomsang